ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เทศบาลนครเชียงใหม่การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ร่วมกับจังหวัดเชียงใหม่ และโฮงเฮียนสืบสานภูมิปัญญาล้านนา ชวนนักท่องเที่ยวเดินทางรับน้ำทิพย์ปีใหม่เมืองเชียงใหม่ 2565 เพื่อความเป็นสิริมงคลในเทศกาลสงกรานต์ปีใหม่เมือง และการเฉลิมฉลองเมืองเชียงใหม่ อายุครบ 726 ปี ที่วัดบุพพารามเชียงใหม่ นายอัศนี บูรณุปกรณ์ นายกเทศมนตรีเทศบาลนครเชียงใหม่ เดินทางมาเป็นประธานในพิธี ตักน้ำทิพย์ ฝ่ายฆราวาสและพระมหาดวงรัตน์ ฐิตรตโน เจ้าอาวาสวัดบุพพาราม พร้อมกับสาธุชนร่วมพิธี

นายอัศนี บูรณุปกรณ์ นายกเทศมนตรีเทศบาลนครเชียงใหม่ กล่าวว่า เมืองเชียงใหม่ เป็นเมืองหนึ่งในประเทศไทยที่มีประวัติศาสตร์ที่มีมาอย่างยาวนานและเป็นพื้นที่สำคัญของประเทศไทยทั้งทางด้านประวัติศาสตร์ ประเพณี วัฒนธรรม ถือได้ว่าเป็นเมืองที่มีความสำคัญ ทางด้านวัฒนธรรมมากที่สุด และในวันที่ 12 เมษายน 2565 เมืองเชียงใหม่จะมีอายุครบ 726 ปี โดยเป็นวันที่ประจวบเหมาะกับเทศกาลสงกรานต์หรือปีใหม่เมืองเชียงใหม่ เป็นวันที่เริ่มศักราช ใหม่ตามแบบโบราณ คนเมืองจะถือเป็นการเริ่มสิ่งใหม่และรับสิ่งที่ดีๆ เพื่อให้เกิดความงดงามความดีงามในชีวิตตลอดทั้งปี โดยการรื้อฟื้นประเพณี พิธีกรรมโบราณที่สูญหายไปแล้วนับร้อยปี นำกลับมาปฏิบัติอีกครั้งและส่งมอบให้แก่ประชาชนทั้งชาวเชียงใหม่และนักท่องเที่ยวที่เดินทางเที่ยวจังหวัด เชียงใหม่ในเทศกาลสงกรานต์ และการเฉลิมฉลองเมืองเชียงใหม่อายุครบ 726 ปี ก็เป็นบุญกุศลอย่างยิ่ง

ทั้งนี้ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ให้ความสำคัญกับการสืนสานงานประเพณีต่างๆ เพราะเป็นประสบการณ์ที่ทรงคุณค่าและไม่สามารถทดแทนกันได้ และจากข้อมูลในปี 2564 พบว่า นักท่องเที่ยวมีความต้องการเดินทางท่องเที่ยว สัมผัสประสบการณ์ใหม่ๆ ซึ่ง ททท. ได้นำเสนอแนวคิด “เสน่ห์วันวาน เมืองเหนือ” เพื่อเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวผ่านการสัมผัสประสบการณ์ จากอดีตที่ยังคงอยู่มาจนถึงปัจจุบันไม่ว่าจะเป็นเทศกาลประเพณี อาคารบ้านเรือน วัดวาอาราม เป็นต้น ซึ่งในปี 2564 ที่ผ่านมา ททท. ได้จัดกิจกรรม “น้ำทิพย์ปี๋ใหม่เมืองเจียงใหม่” เป็นการอัญเชิญน้ำจากแหล่งน้ำศักดิ์สิทธิ์ที่ ในจังหวัดเชียงใหม่ จาก 3 แห่ง นำน้ำมาประกอบพิธีหุงน้ำทิพย์ปี๋ใหม่เมืองฯ ตามประเพณีล้านนา ซึ่งเป็นพิธีโบราณที่หาชมได้ยากและในปี 2565 นี้ ททท. ได้ต่อยอดกิจกรรมประเพณีอันดีงามนี้ โดยการอัญเชิญน้ำจากแหล่งน้ำศักดิ์สิทธิ์ 9 แห่ง นำมาประกอบ พิธีหุงน้ำทิพย์ปีใหม่เมือง เพื่อประชาสัมพันธ์ให้เป็นที่รู้จัก และดึงดูดนักท่องเที่ยวมาเรียนรู้ สัมผัสและรับน้ำทิพย์เพื่อความเป็นสิริมงคลในช่วงเทศกาลสงกรานต์ปี๋ใหม่เมือง โดยจะมีการแจกจ่ายให้นักท่องเที่ยวที่เดินทางมาท่องเที่ยวจังหวัดเชียงใหม่ ในวันที่ 12-16 เมษายน 2565 มีจุดแจกน้ำทิพย์ทั้งหมด 10 จุด จำนวน 10,726 ขวด นักท่องเที่ยวสามารถ ลงทะเบียนรับน้ำทิพย์โดยการสแกน QR Code เพื่อลดการแออัดและป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อโควิด-19

นอกจากนี้ ยังขอเชิญชวนเข้าสักการะวัดต่างๆ ที่มีบ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์ ซึ่งเป็นวัดโบราณที่มีสถาปัตยกรรมแบบดั้งเดิมที่มีความสวยงาม มีประวัติเรื่องราวที่ถ่ายทอดส่งต่อจากอดีตจนถึงปัจจุบันให้นักท่องเที่ยวได้เรียนรู้

นายยุทธการ ขันชัย ผู้จัดการโฮงเฮียนสืบสานภูมิปัญญาล้านนาและหัวหน้าศูนย์ศึกษาเอกสารโบราณ กล่าวว่า การหุงน้ำทิพย์ถือเป็นพิธีที่มีความสำคัญ ซึ่งมีขั้นตอนพิธีกรรมที่รื้อฟื้นการปฏิบัติแบบโบราณตามความเชื่อโบราณ กล่าวคือ เป็นการใช้น้ำจากแหล่งน้ำศักดิ์สิทธิ์จำนวน 9 แหล่งน้ำที่สำคัญในจังหวัดเชียงใหม่ คือ (1) บ่อน้ำทิพย์วัดบุพพาราม อ.เมืองเชียงใหม่ (2) บ่อน้ำทิพย์บนยอดดอยอ่างกาหลวงหรือดอยอินทนนท์อ.จอมทอง (3) น้ำจากต้นน้ำปิงอ.เมือง ซึ่งแหล่งน้ำสำคัญทั้ง 3 แหล่งนี้เป็นแหล่งน้ำที่เป็นส่วนหนึ่งของแหล่งน้ำศักดิ์สิทธิ์จาก 108 แห่งทั่วประเทศที่รวบรวม นำไปทำพระราชพิธีบรมราชาภิเษกในหลวงรัชกาลที่ 10

นอกจากนี้ ยังเก็บน้ำศักดิ์สิทธิ์จากแหล่งน้ำอีก 6 แห่งเพื่อใช้ในการประกอบ พิธีหุงน้ำทิพย์ในครั้งนี้ ได้แก่ (4) บ่อน้ำทิพย์วัดผาลาด อ.เมืองเชียงใหม่ (5) บ่อน้ำทิพย์วัดป่าแดด อ.เมืองเชียงใหม่ (6) บ่อน้ำทิพย์วัดดับภัย อ.เมืองเชียงใหม่ (7) น้ำทิพย์วัดพระธาตุดอยสุเทพราชวรวิหาร อ.เมืองเชียงใหม่ (8) บ่อน้ำทิพย์วัดธาราทิพย์ไชยประดิษฐ์ อ.แม่แตง (9) บ่อน้ำทิพย์วัดพุทธเอ้น อ.แม่แจ่ม ในวันที่ 10 เมษายน 2565 เป็นวันทำพิธีหุงน้ำทิพย์ ณ วัดพระธาตุดอยสุเทพราชวรวิหาร บริเวณลานชมวิวเป็น พิธีตามแบบโบราณ มีการเจริญพระพุทธมนต์ทั้ง 7 ที่ใช้ในพิธีสำคัญของเมือง ซึ่งการทำพิธีในการหุงนี้มีหลายขั้นตอนในการทำเพื่อให้เกิดพิธีกรรมที่ศักดิ์สิทธิ์รวมถึงจุดไฟจากดวงอาทิตย์ ใช้ก้อนเส้ารูปสัตว์มงคล ฟืนจากไม้มงคลต่างๆ ตัวยาที่ใช้ในการหุงก็เป็นเครื่องหอมหลายอย่าง รวมถึงใบไม้มงคลเพื่อเพิ่มความศักดิ์สิทธิ์ ส่วนในช่วงค่ำ จะมีพิธีเจริญพระพุทธมนต์ เพื่อเพิ่มความศักดิ์สิทธิ์อีกครั้งหนึ่ง และเพื่อให้เกิดความเป็นสิริมงคลต่อผู้ที่ได้รับน้ำทิพย์อีกด้วย

แหล่งที่มา : https://www.naewna.com/local/645614

แชร์โพสนี้

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *